ดูหนังออนไลน์ Rise of The Guardians (2012) ห้าเทพผู้พิทักษ์

Rise of The Guardians (2012) ห้าเทพผู้พิทักษ์ ดูหนัง

Rise of The Guardians (2012) ห้าเทพผู้พิทักษ์ ดูหนัง ถึงเวลาเข้าโรงภาพยนต์ไปดูแอนิเมชั่นที่คอยอีกหัวข้อ เหตุเพราะได้ดูแบบอย่างของมันแล้วคิดว่าภาพมันงามและก็ละเอียดมากๆRise of The Guardians ผลงานเรื่องใหม่จากสตูดิโอ DreamWorks Animation ที่เคยผลงานน่าประทับใจมาแล้วจากหลายเรื่อง โดยยิ่งไปกว่านั้น Kung Fu Panda และก็ How to Train Your Dragon งานนี้ ย่อมไม่พลาด

ตัวอย่างหนัง

เรื่องย่อ

จะกำเนิดอะไรขึ้นถ้าเกิดเบื้องหน้าเบื้องหลังตำนานซานตาคลอส (บรรยายเสียงโดย อเล็ก บอลด์วิน) กระต่ายอีสเตอร์ (บรรยายเสียงโดย ฮิวจ์ แจ็คแมน) นางสวรรค์ฟันน้ำนม (บรรยายเสียงโดย อิซล่า ฟิชเชอร์) และก็ แซนด์แมน มีเรื่องมีราวราวมากยิ่งกว่าที่พวกเราเคยรู้กันมา จะกำเนิดอะไรขึ้นถ้าเกิดผู้ให้ของขวัญ ไข่ เงิน และก็ความฝันเป็นมากกว่าที่พวกเราคาดหวัง

ผู้รักษาจากเทพนิยายยุคเด็กกลุ่มนี้ที่เป็นอมตะ หนักแน่น และก็พลิ้วไหว ได้รับมอบหมายให้ป้องกันความไม่รู้เดียงสาและก็จินตนาการของเด็กๆทุกวัยอย่างเต็มพลังความรู้ความเข้าใจ เมื่อภัยร้ายคิดแผนจะกำจัดผู้รักษากลุ่มนี้ให้หายไปจากโลกด้วยการพรากความมุ่งหวังรวมทั้งความฝันจากพวกเด็กๆผู้รักษาที่เป็นหวานใจพวกนี้ก็เลยจำเป็นต้องอาศัยการช่วยเหลือจาก แจ็ค ฟคอยสต์ (บรรยายเสียงโดย คริส ไพน์) ผู้รักษาจำใจ ผู้ต้องการจะสุขสบายกับวันหิมะโปรยมากยิ่งกว่าผู้กระทำอบกู้โลก

จากซอกหลืบที่ลึกที่สุดของขั้วโลกเหนือ ไปสู่หลังคาเมืองเซี่ยงไฮ้ แล้วก็เมืองเล็กกระจิ๋วริ๋วในนิวอิงค์แลนด์ รวมถึงดินแดนไกลมาก เหล่าผู้รักษาจึงควรโรมรันครั้งใหญ่กับ พิทช์ (บรรยายเสียงโดย จู๊ด ลอว์) ภูติผีปีศาจฝันร้ายจอมกะล่อน ผู้ซึ่งขั้นตอนการสำหรับเพื่อการครอบครองโลกของเขาเป็นผู้กระทำระจายความหวาดกลัวไปทั้งโลก รวมทั้งวิถีทางเดียวที่จะปราบเขาได้เป็นพลังที่เชื่อถือและก็มนตร์ของผู้รักษา

ถึงแม้ฟังดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ฉายเพื่อต้อนรับเทศกาลที่ความสำราญสันต์ช่วงปลายปีก็ตาม แต่ว่าโดยลึกแล้ว Rise of the Guardians เองก็มีประเด็นสำคัญหรือเนื้อหาส่วนที่มีความสำคัญที่น่าดึงดูดลึกกว่านั้น ประกอบกับความเพลิดเพลินที่แต่งอย่างน่าดึงดูดในระดับหนึ่ง ก็ช่วยทำให้ให้หนังประเด็นนี้สร้างความเพลิดเพลินให้ผู้ชมได้อย่างน่าพอใจ

รีวิว Rise of The Guardians

Rise of the Guardians เล่าถึงหนุ่มน้อยนามว่า แจ็ค ฟรอคอยสต์ คนที่มีชีวิตอมตะ มีพลังอำนาจสำหรับเพื่อการควบคุมความเย็นเพียงแต่ว่าไม่มีผู้ใดแลเห็น แม้ว่าจะเรียกร้องความพึงพอใจจากคนอื่นยังไงก็แล้วแต่แม้กระนั้น แต่ว่าแจ็ค ฟรอคอยสต์ก็เสมือนจะเป็นเพียงแต่เรื่องเล่า ไม่มีผู้ใดรู้จัก ไม่มีผู้ใดเชื่อหรือเลื่อมใสอะไร

แล้วอยู่มาวันหนึ่ง พิทช์ กางล็ค บูกี้แมนที่ฝันร้ายได้แสดงตัวขึ้นมาเพื่อแปลงฝันดีทั้งหลายแหล่ให้เป็นฝัน ร้าย ทำลายความเชื่อถือในเรื่องเทพนิยายของเหล่าเด็กๆจนถึงหมดเกลี้ยง แล้วก็แบบนั้นพระจันทร์ก็เลยแจ้งเหล่าเทพผู้รักษาทั้งยังสี่ อาทิเช่น นอร์ธ ซานตาครอส, กระต่ายอีสเตอร์, ธูทแฟรี่ แล้วก็ แซนด์แมน ถึงเวลาของเทวดาปกป้องคนใหม่ที่ไม่มีผู้ใดคาดการณ์ว่าจะเป็น แจ็ค ฟรอคอยสต์ ตัวป่วนที่ผู้คนจำนวนมากนั้นไม่ได้อยากต้องการจะยุ่ง

เรื่องราวนั้นดำเนินไปอย่างกระชับฉับไวตามแบบฉบับของแอนิเมชั่นสำหรับ เด็กที่โตขึ้นมาอีกหน่อย นอกเหนือจากงานภาพอันตะการตาแล้ว อารมณ์บันเทิงใจรวมทั้งความระทึกใจของฉากแอคชั่นก็ได้เพิ่มอารมณ์ให้เรื่อง ราวดำเนินไปอย่างออกจะลื่นไหล ถึงแม้เรื่องหลายจุดจะดำเนินไปในต้นแบบที่สามารถเรียกได้เลยว่าเป็นสูตรสำเร็จที่คาด ทายใจได้อย่างง่ายๆก็ตาม

แต่ว่าแม้กระนั้น มันก็ยังมีจุดเด่นอยู่ โดยศูนย์กลางที่ยึดให้เรื่องไม่ให้หลุดออกไปจากที่ควรเป็นก็คือเรื่องราวของ ความเชื่อถือรวมทั้งเชื่อถือ แล้วก็มันก็ได้เชื่อมโยงไปพบ แจ็ค ฟคอยสต์ คนที่อยากได้ได้รับความศรัทธาและก็เชื่อถือจากคนอื่นๆ โดยเฉพาะ เหล่าเด็กๆที่จะสามารถมองเห็นเขาได้ก็เมื่อมีความเชื่อแล้วก็เชื่อถือในตัวเขาเพียงแค่นั้น

แท้จริงใจความสำคัญของหัวข้อนี้มองผิวเผินบางทีอาจจะเป็นอะไรที่มองเด็กมากมายกับการที่ ความฝันของเด็กๆที่ถูกทำลายรวมทั้งเปลี่ยนให้เป็นฝันร้าย แต่ว่าเมื่อมันได้รับการเล่าในประเด็นนี้ มันก็เล่าออกมาในท่าทางและก็ประเด็นที่น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากว่ามันเปลี่ยนเป็นว่าเมื่อเหล่าเด็กๆสิ้นเชื่อถือมันก็แปรว่าพวกเขาตื่นมารวมทั้งได้เจอกับข้อเท็จจริงและก็การโต เป็นผู้ใหญ่

ในเวลาเดียวกัน การเจอกันของแจ็ค ฟรอคอยสต์ กับ พิทช์ กางล็ค ก็เป็นอะไรที่น่าดึงดูด ด้วยเหตุว่าทั้งคู่นั้นเป็นตัวละครที่มีแนวความคิดคล้ายกันมันก็คือการที่ไม่มี ผู้ใดกันแน่เห็น ไม่มีตัวตนที่จริงจริงอยู่ในสายตาคนอื่น แม้กระนั้นแต่กระนั้นนักแสดงสองคนนี้ก็เลือกทางเท้าที่ต่างกัน

แม้ว่าที่แท้ แจ็ค ฟคอยสต์ จะไม่ค่อยเต็มอกเต็มใจที่จะร่วมสำหรับเพื่อการเป็นเทวดาปกป้องอะไรนี่เสียด้วยซ้ำ เนื่องจากว่าเขาไร้จุดหมาย ไม่เคยรู้ว่าตัวเองเป็นคนใดกัน และไม่รู้ดีว่าตัวเองปรารถนาอะไร สิ่งที่ดึงลากให้แจ็ค ฟคอยสต์ร่วมทางกับบุคคลอื่นถัดไปเพราะเหตุว่าอยากตามหาความจำในอดีตกาลของตัวเองก่อน ที่จะเปลี่ยนมาเป็ยแจ็ค ฟคอยสต์เพียงเท่านั้น

ตามที่กล่าวไป Rise of the Guardians มีหลายสิ่งที่สามารถพูดได้ว่าเป็นสูตรสำเร็จจนกระทั่งน่าตกใจ เรื่องราวหรือบทสนทนาหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเราเคยได้เห็นเคยทราบมาแล้วจากแอนิเมชั่นร้อย เรื่องก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา รวมทั้งลำดับการเล่าเรื่องที่ไม่สามารถที่จะกล่าวออกมาได้ว่าลื่นไหลได้อย่างเต็มปาก รวมทั้งแหล่งกำเนิดความไม่ลงรอยกันแบบเดิมๆ

ดังนี้ก็อาจจะจะต้องเอ่ยถึงส่วนประกอบเริ่มแรกของเรื่อง เนื่องจากแม้ทดลองพินิจพิเคราะห์ดูดีๆแล้ว พิทช์ กางล็ค หรือ บูกี้แมน เป็นตัวร้ายที่อยู่ปรปักษ์กับผู้แสดงมากยิ่งกว่าสามคน คนแรกเป็น แจ็ค ฟคอยสต์ ที่ไม่ตรงกันกันสำหรับเพื่อการทำ ผู้ที่สองเป็น แซนด์แมน คนที่รอสร้างฝันดีให้เหล่าเด็กๆผู้ที่สามก็คือ นอร์ธ ซานต้าครอส คนที่อยู่ครอบครองตำแหน่งตรงกันข้ามกัน ดังนี้พวกเราบางทีอาจจะรวมกลุ่มละครเด็กๆที่มีบทออกจะกระปริกระพรำแม้กระนั้นก็กลับมามีความจำเป็นในช่วงท้ายเรื่องด้วยก็ได้

บางทีอาจจะเป็นเหตุนี้ ทำให้บางจุดมันยังรู้สึกขาดๆเกินๆอยู่ รวมทั้งการผลิตเหตุการณ์หลายแบบที่เน้นไปที่ความเบิกบานใจสำหรับเพื่อการดำเนิน เรื่องสิ่งเดียว กลับไร้สาระสำหรับเพื่อการเดินเรื่องเสียมากแค่ไหน เหล่านักแสดงสมทบที่บ่อยมากเสมือนมีความรู้สึกว่าถูกผลิตมาเพียงแค่เพื่ออุดช่อง ว่างของเรื่องจนกระทั่งควรจะมีการใส่ฉากต่างๆเพิ่มให้อย่างออกจะแออัดเพื่อไม่ให้นักแสดงพวกนั้นถูกลืม

ดังนั้นพวกเราก็เลยจะต้องขอบคุณมากการออกแบบผู้แสดงที่สะดุดตามีเอกลักษณ์ อยู่ในตัวรวมทั้งมีเสน่ห์ที่ผิดแผกออกไปจากภาพประจำที่พวกเราเคยได้เห็นมาเสนอ ไม่ว่าจะเป็นกระต่ายอีสเตอร์สุดหรูที่พกบูมเมอแรงเป็นอาวุธ หรือ นอร์ธ ซานตาคลอส ร่างใหญ่ที่สักเต็มแขนพร้อมถือกระบี่ยักษ์สองมือ เหล่าเอลฟ์ที่หมดเกลี้ยงความน่ารักน่าเอ็นดูหรือแต่ว่าความปั่นป่วน หรือเยติเตียนตัวโตที่เปลี่ยนเป็นว่าเหล่านี้นี่แหละเป็นคนที่สร้างของขวัญให้เหล่า เด็กๆ

รวมทั้งอาจจะจะต้องรวมทั้งความเชื่อมโยงระหว่างนักแสดงที่ช่วยทำให้เรื่องเดินไปได้ อย่างน่าดึงดูดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การจับคู่ในบางฉากที่หากแม้จะเป็นเพื่อการผลิตเหตุการณ์ให้เรื่องดำเนินไป จากที่เรื่องวางไว้ แม้กระนั้นมันก็ยังน่าดึงดูดรวมทั้งมีเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นอย่าง แจ็ค ฟรอคอยสต์ กับแซนด์แมนในตอนต้น หรือ แจ็ค ฟคอยสต์กับกระต่ายอีสเตอร์ในตอนกึ่งกลางถึงด้านหลังเรื่อง

ที่สำคัญเป็นสาระสำคัญของเรื่องที่ว่าด้วยการมีตัวตนของแจ็ค ฟคอยสต์ กับ ความเชื่อถือรวมทั้งเลื่อมใสของเหล่าเด็กๆมีความแข็งแรงเกินคาด และก็มันก็แปลงเป็นสองฉากที่เจิดรุ่งเรืองหนสุดในหนังหัวข้อนี้ เมื่อแจ็ค ฟรอคอยสต์มีตัวตนจริงๆในสายตาของเด็กคนหนึ่ง มันเป็นฉากที่มองเรียบง่ายที่น่าตื้นตันใจแล้วก็สามารถคลี่คลายเงื่อนของผู้แสดงได้

อย่างงดงาม รวมทั้งฉากช่วงท้ายเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนงดงามอย่างน่าตื่นตะลึงงัน เมื่อผสานกับประสิทธิภาพของงานแอนิเมชั่นและก็กราฟฟิกที่แสนละเอียดชั้นสูงมันก็เลย สนับสนุนให้อารมณ์ร่วมของผู้ชมไปไกลขึ้นอีกรวมทั้งที่สำคัญเลยก็คือ ความเป็น 3D ของประเด็นนี้เว้นแต่ความงดงามแล้วยังช่วยสำหรับการสร้างภาพอันละลานตามหาศาล

มีฉากหนึ่ง แจ็ค ฟรอคอยสต์ โดน พิทช์ กางล็ค ชักนำให้มาร่วมมือกับเขา เพื่อสร้างความอัศจรรย์ให้เป็นที่จำ ระหว่างความมืดดำกับความไม่แยแส แม้กระนั้นแจ็ค ฟรอคอยสต์ ไม่ยอมรับ เนื่องจากเขามิได้อยากได้ทำให้ผู้คนจำได้ไพเราะความหวาดกลัว แต่ว่าเขาอยากได้ที่จะมีตัวตนแล้วก็สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ สิ่งพวกนี้ไปเชื่อมกับฉากที่ นอร์ธ ซานตาครอส ถามแจ็ค ฟรอคอยสต์ ว่าศูนย์กลาง (หรือแก่นกึ่งกลาง)

ของเจ้าเป็นยังไง เนื่องจากว่าเหล่าเทพทุกคนควรจะมีศูนย์กลางของตน แล้วก็สำหรับแจ็ค ฟรอนต์ มันเป็นความสนุก หาใช่ความกลัวหรือความไม่แยแสไม่ หากว่าเขาจะเป็นเทวดาน้ำแข็ง แต่ว่าน้ำแข็งมันก็หาใช่มีก็แค่ความไม่แยแส มันยังเป็นความขาวบริสุทธิ์ซึ่งสามารถสร้างความสนุกสนานร่าเริงให้แก่ทุกคนได้เสมือน กับเหล่าเด็กๆที่วิ่งเล่นบนผืนหิมะอย่างสนุก

รวมทั้งเหนือกว่าสิ่งอื่นใดนั้น ถึงแม้ว่าหิมะจะมิได้ปกคลุมไปทั่วโลก แต่ว่าความดื้อรั้นครึกครื้นยังคงอยู่ในใจของทุกคน ในด้านหลังเรื่องแจ็ค ฟรอคอยสต์ก็ได้บอกกับเด็กคนหนึ่งว่า ถึงแม้ว่าจะมิได้มองเห็นพวกเขาแล้ว แม้กระนั้นความสบายสนุกสนานพวกนั้น ก็ยังคงอยู่ในใจของพวกเราตลอดกาล หากแม้ดูเหมือนกับว่าจะเป็นสิทธิเฉพาะเด็ก แม้กระนั้นก็ใช่ว่าควรจะเป็นอย่างงั้นเสมอ

โดยเหตุนี้ถึงแม้สาระสำคัญของเรื่องจะค่อนข้างจะแตกไปได้นานัปการทาง แต่ว่าช่วงท้ายหนังก็สามารถสรุปออกมาได้อย่างน่าดึงดูดว่า ถ้าเกิดคุณไม่เคยลืมว่าดวงตะวันส่องฉาย พระจันทร์เปล่งแสง ถึงแม้ว่าคุณจะพบเห็นเรื่องราวเหนื่อยยากเท่าใด วัยเด็กของคุณก็จะยังคงอยู่ที่ตรงนั้นเสมอ

มันมิได้เป็นเพียงแค่สารที่บอกไว้แก่เด็กๆเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังบอกแก่คนแก่อย่างเราด้วย แม้ว่าจะพบเรื่องร้ายอะไร แต่ว่าคริสมาสตร์ก็ยังมาทุกปี ไก่วางไข่ทุกวี่ทุกวัน เด็กทุกคนจำเป็นต้องฟันน้ำนมหลุด ทุกคนจำต้องฝัน หิมะอย่างไรก็จะต้องตกถึงแม้ว่าจะไม่เห็น แม้กระนั้นพวกเราก็ทราบได้ว่ามันมี รวมทั้งถ้าพวกเราเชื่อแบบนั้น ตัวเราในวัยเด็กก็น่าจะไม่มีวันดับแสงสว่างไป